จุดมุ่งหมายของหนังสือ ปั้นให้รุ่ง คือการตั้งคำถามว่า เราจะช่วยให้นักเรียนที่มีภูมิหลังยากลำบากประสบความสำเร็จในโรงเรียนได้อย่างไร เมื่อพูดถึงนักเรียนกลุ่มนี้ เรากำลังพูดถึงนักเรียนกว่าครึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบ และเมื่อหาทางช่วยพวกเขา ก็เท่ากับเราช่วยเติมเต็มอนาคต บ่มเพาะทักษะแห่งความสำเร็จของเด็กให้เบ่งบาน และสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคนไปพร้อมกัน
คำสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือ “สภาพแวดล้อม” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอาคารสถานที่ แต่หมายถึงผู้คนที่รายล้อมและเกี่ยวข้องกับตัวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองในช่วงปฐมวัย และครูอาจารย์ซึ่งเริ่มมีบทบาทเมื่อพวกเขาเข้าโรงเรียน มีการทดลองยืนยันว่าผู้ใหญ่รอบตัวเด็กมีผลกระทบและส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมเด็กๆ มากกว่าที่คิด
แนวคิดใหม่จากหนังสือ ปั้นให้รุ่ง มุ่งเปลี่ยนจาก “การสอน” มาเป็นการสร้าง “สภาพแวดล้อม” รอบตัวเด็กในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ที่บ้าน โรงเรียน ไปจนถึงสังคม
หากต้องการรู้จักการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความสำเร็จของเด็กๆ รวมถึงทำความเข้าใจทักษะแห่งความสำเร็จ และเติมเต็มอนาคตทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับเด็กทุกคนให้มากยิ่งขึ้น นี่คือรวมโพสต์ที่คุณกำลังตามหาอยู่แน่นอน
จุดมุ่งหมายของหนังสือ ปั้นให้รุ่ง คือการตั้งคำถามว่า เราจะช่วยให้นักเรียนที่มีภูมิหลังยากลำบากประสบความสำเร็จในโรงเรียนได้อย่างไร เมื่อพูดถึงนักเรียนกลุ่มนี้ เรากำลังพูดถึงนักเรียนกว่าครึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบ และเมื่อหาทางช่วยพวกเขา ก็เท่ากับเราช่วยเติมเต็มอนาคต บ่มเพาะทักษะแห่งความสำเร็จของเด็กให้เบ่งบาน และสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคนไปพร้อมกัน
ปั้นให้รุ่ง เล่มนี้ นอกจากทบทวนงานวิจัยที่เขียนถึงใน เลี้ยงให้รุ่ง ยังขยายขอบเขตสู่การนำเสนอการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ชิ้นใหม่ ต้นแบบการเรียนการสอนใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ในการช่วยเหลือเด็กทั้งในและนอกโรงเรียน วางแนวทางปฏิบัติและงานวิจัยในสาขานี้ให้กับนักปฏิบัติ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบาย อีกทั้งพยายามตอบคำถามที่ว่า เมื่อมีข้อมูลอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว เราควรทำอย่างไรต่อไป
กิจกรรมเวิร์กช็อป “ปั้นให้รุ่ง: สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน” โดย ก๋วย – พฤหัส พหลกุลบุตร เลขาธิการมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ และ ฝน – ภัทรภร เกิดจังหวัด ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา มูลนิธิสื่อชาวบ้าน คือโอกาสดีที่ครู นักการศึกษา และคนทำงานด้านการศึกษา จะได้ทำความเข้าใจแนวคิดใหม่จากหนังสือ ปั้นให้รุ่ง ที่เปลี่ยนจาก “การสอน” มาเป็นการสร้าง “สภาพแวดล้อม” รอบตัวเด็ก โดยสภาพแวดล้อมในที่นี้คือ “ผู้ใหญ่” ที่รายล้อมเด็กๆ ในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ที่บ้าน โรงเรียน ไปจนถึงสังคม
หากต้องการรู้จักการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความสำเร็จของเด็กๆ ให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงอยากสัมผัสบรรยากาศกิจกรรมสนุกๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นการเรียนรู้สำหรับเด็กทุกคน นี่คือสรุปความกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด
กิจกรรมเวิร์กช็อปในหัวข้อ “ปั้นให้รุ่ง: สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน” นำกิจกรรมโดย ก๋วย – พฤหัส พหลกุลบุตร เลขาธิการมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม)
“สิ่งสำคัญที่หนังสือ ปั้นให้รุ่ง นำเสนอไม่ใช่วิธีสอน แต่เป็นเรื่องวิธีคิด แน่นอนว่าการสอนก็เป็นปัจจัยความสำเร็จอย่างหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถปรับเปลี่ยนอนาคตของเด็กคนหนึ่งไปได้เลย”
เนื้อหาในหนังสือเล่าถึงบริบทของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากสถิติพบว่า เด็กนักเรียนร้อยละ 51 หรือกว่าครึ่งในโรงเรียนรัฐ มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ พฤหัสจึงอยากเชื่อมโยงให้ผู้เข้าร่วมได้เห็นบริบทของสังคมไทย ซึ่งเด็กๆ ต้องเผชิญความยากลำบากตั้งแต่ช่วงปฐมวัยที่ถือว่าเป็นวัยทองแห่งพัฒนาการเด็ก
หนังสือเล่มนี้ชี้ว่าสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กยากจนให้มีศักยภาพเทียบเท่าคนอื่นๆ ก็คือ ทักษะด้านพฤติกรรม (noncognitive skills / soft skills / life skills) ซึ่งแตกต่างจากความเชื่อในบริบทดั้งเดิมของเรามาก เพราะในระบบการศึกษาไทยให้ความสำคัญกับทักษะทางความรู้และความคิด (cognitive skills)
“แล้วเราถูกทำให้จินตนาการไม่ออกว่า เราจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้อย่างไร เพราะเราถูกทำให้เชื่อว่า มันเป็นอย่างนี้แหละ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนี้แหละ”
พฤหัสมองว่า ถ้าไม่เชื่อมโยงปัญหาเชิงโครงสร้าง ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะไม่ถูกแก้ การเริ่มที่ตัวเรานั้นสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาเป็นสิ่งที่ต้องทำต้องทำควบคู่กัน
พูดคุยกับผู้นำกิจกรรมเวิร์กช็อป “ปั้นให้รุ่ง: สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน” ภัทรภร เกิดจังหวัด ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา มูลนิธิสื่อชาวบ้าน และพฤหัส พหลกุลบุตร เลขาธิการมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้
พชร สูงเด่น ผู้แปล ปั้นให้รุ่ง ชวนอ่านมายาคติทางการเรียนการสอนที่อยากให้ครู ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้องกับเด็กๆ ทั้งหลายได้ทบทวนวิธีการเดิมๆ ด้วยมุมมอง และหนทางใหม่ๆ ที่พอล ทัฟ ได้เสนอไว้ในหนังสือ ปั้นให้รุ่ง หนังสือที่มุ่งหาทางสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน
- จากสอนทักษะ วัดผลสัมฤทธิ์ระยะสั้น เป็นบ่มเพาะคุณสมบัติระยะยาว
- จากคัด ‘ตัวป่วน’ ออกเพื่อสร้างวินัย เป็นสร้างสภาพแวดล้อมที่ใช่ให้อยู่ร่วมกันได้
- จากคัดลอกวิธีการ เป็นถอดรหัสหัวใจสำคัญ
ชวนอ่านผลงานวิจัยน่าสนใจและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงทั้งในห้องเรียนและที่บ้าน จาก ปั้นให้รุ่ง เพื่อสร้างสรรค์ “สภาพแวดล้อม” ให้เหมาะกับการสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ส่งเสริมทักษะแห่งความสำเร็จให้เบ่งบาน และเติมเต็มอนาคตทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับเด็กทุกคน
หัวใจสำคัญของหนังสือ ปั้นให้รุ่ง คือเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อตอบปัญหาสำคัญที่ว่า เราจะช่วยเด็กที่มีภูมิหลังยากลำบากให้ประสบความสำเร็จในโรงเรียนได้ดีที่สุดได้อย่างไร
ชวนมาดูกันว่าการปรับเปลี่ยนจากการ “สอน” มาเป็นการสร้าง “สภาพแวดล้อม” จะเอื้อให้ทักษะแห่งความสำเร็จของเด็กเบ่งบานได้อย่างไร โดยเริ่มวางรากฐานจาก “บ้าน” ต่อยอดสู่ “โรงเรียน” และ “สังคม” เพื่อสร้างโอกาสแห่งความสำเร็จที่เท่าเทียมสำหรับเด็กทุกคน
การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่เรียกร้องให้ผู้คน “รักษาระยะห่าง” กระทั่งกิจกรรมออนไลน์รุกคืบไปทั้งในพื้นที่สาธารณะ สถานประกอบการ ตลอดจนสถานศึกษาก็เป็น “วิกฤต” หนึ่งซึ่งเมื่อปรากฏแล้วขับเน้นวิกฤตเดิมให้เด่นชัด และซ้ำเติมปัญหาการศึกษาอย่างไม่ปรานี เมื่อโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดทำการ การจัดการเรียนรู้โดยไม่เห็นหน้าค่าตาจะเอื้อมถึงความต้องการที่หลากหลายของเด็กๆ ได้อย่างไร
ถึงเวลาแล้วที่จะร่วมกันสะท้อนคิดเพื่อหาคำตอบว่ามีวิกฤตใดบ้างที่ซ้อนทับกันในสภาวะไม่ปกตินี้ ผ่านมุมมองของนักเรียน นักการศึกษา และผู้กำหนดนโยบาย เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาสอย่างแท้จริง ผ่านงานเสวนาออนไลน์ต่อยอดจากหนังสือ ปั้นให้รุ่ง: สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคน ทำความเข้าใจปัจจัยที่เอื้อต่อการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าทักษะด้านพฤติกรรม ความสัมพันธ์ หรืออุปนิสัย และร่วมพลิกแนวคิดจากการ “สอน” ในห้องเรียน เป็นการสร้าง “สภาพแวดล้อม” เปิดโอกาสให้ทักษะแห่งความสำเร็จของเด็กๆ แบ่งบาน เปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เท่าเทียม ตลอดจนหาแนวทางสร้าง “สภาพแวดล้อม” ที่ใช่ ให้การเรียนรู้ยุคใหม่เป็นมิตรกับเด็กทุกคน