
ภาพ: SAC Gallery
Kidscape ชวนคุยกับบอล–นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินที่อยากชวนทุกคนมาอ่านนิทานภาพเพื่อเปิดกว้างทางความคิดมากยิ่งขึ้น
“สมัยเด็ก หนังสือภาพมักเล่าเรื่องที่เดาตอนจบได้เสมอ…แต่ Kidscape ทำให้ผมเซอร์ไพรส์ทุกหน้า”
บอล – นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินผู้ใช้ “ดอกไม้” เป็นภาษาสื่อสารเรื่องสังคมมาตั้งแต่ปี 2013 กำลังจะกลับมาพร้อมนิทรรศการ Vase of Possibilities ที่ชวนทุกคนมองเห็นความหลากหลายผ่านจินตนาการและความฝันของเยาวชน จากภาพวาดของเด็กๆ โรงเรียนเผดิมศึกษา จัดวางลงใน “แจกันแห่งความเป็นไปได้”
ในงานยังมีหนังสือนิทานภาพจากสำนักพิมพ์ Kidscape ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้ร่วมเรียนรู้และตั้งคำถามถึงเรื่องความหลากหลาย ผ่านเรื่องเล่าเล็กๆ ที่อาจสร้างแรงกระเพื่อมในใจได้อย่างไม่คาดคิด


เพราะนิทานภาพอาจไม่ได้เปลี่ยนโลกในทันที…
แต่มันเปลี่ยนมุมมองของเด็กคนหนึ่ง
ที่วันหนึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ซึ่งเข้าใจโลกได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
คุณเห็นจุดร่วมอะไรระหว่างงานศิลปะของคุณกับนิทานภาพของ Kidscape ในการพูดเรื่องความหลากหลาย
ประทับใจตอนไปเจอ Kidscape ที่สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ตอนที่ได้เปิดอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มแล้วรู้สึกว่า ดีจังที่อย่างน้อยเด็กรุ่นใหม่ก็ได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ช่วยเปิดกว้างทางความคิด เปิดกว้างทางความรู้สึก เปิดกว้างกับเรื่องราวของความเป็นจริงที่ไม่มีค่านิยมฉาบหน้าเอาไว้จนถูกบิดเบือน
หนังสือในยุคของตัวผมเองตอนเด็กๆ คือเรื่องราวที่เดาตอนจบได้อย่างมีแบบแผน แต่หนังสือของ Kidscape ทุกหน้าที่เปิดไปคือเรื่องเซอร์ไพรส์เหนือความคาดหมายที่แสดงข้อเท็จจริงของสังคมในยุคปัจจุบันได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ละมุนละม่อม
ทำไมคุณคิดว่าเราควรสื่อสารเรื่องความหลากหลายกับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ
เพราะการทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายเป็นเรื่องที่เด็กๆ ควรได้เริ่มทำความเข้าใจตั้งแต่ในวัยที่กำลังเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ แต่ต้องไม่ชี้นำชัดเจนจนปิดกั้นความคิดเด็ก การเปิดพื้นที่และสร้างความตระหนักเริ่มต้นได้ด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ผมเองยังจำเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ รุมบูลลี่เพื่อนคนหนึ่งในห้องได้ชัดเจน พอคนหมู่มากมีอำนาจมากกว่าทำให้คนกลุ่มน้อยต้องคล้อยตามและรุมเกลียดเพื่อนคนนั้น ทั้งที่บางคนก็ไม่ได้เกลียดเขาเลยด้วยซ้ำ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และตัวผมเองก็ยังไม่สามารถลืมความรู้สึกผิดนี้ไปได้จนถึงตอนนี้
ในฐานะผู้ใหญ่ เมื่อได้อ่านหนังสือนิทานภาพแล้วคิดว่ามันมีความสำคัญอย่างไร
ทุกวันหลังเลิกเรียนผมมักจะไปอ่านหนังสือภาพที่ห้องสมุดตลอด ผมจำได้เสมอว่า งู เสือ หรือสิงโตมักปรากฎในบทผู้ราย ในขณะเดียวกัน กระต่าย หมี สุนัข มักปรากฎในบทผู้ถูกกระทำตลอด สิ่งเหล่านี้สร้างภาพจำให้สัตว์พวกนี้ได้รับบทบาทสมมติที่ถูกจองจำเอาไว้ในภาพลักษณ์ที่ยากจะเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ผมยังเด็ก
สำหรับผมนิทานภาพเป็นมากกว่ารูปสวยๆ กับเรื่องราวที่เข้าใจง่าย แต่มันคือความทรงจำที่จะติดตรึงใจในวัยเด็กเรื่อยมานับสิบๆ ปี จนกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจโลกของความหลากหลายมากขึ้น มันคงจะดีถ้าหนังสือนิทานภาพสามารถนำเสนอมุมมองที่หลากหลาย และสร้างความเข้าใจในมุมกว้าง โดยไม่ไปกดทับบทบาทของสิ่งหนึ่งสิ่งใดจนกลายเป็นภาพจำที่ยากจะลืม ซึ่งผมมองเห็นความเปิดกว้างที่น่าสนใจนี้ในหนังสือนิทานภาพของ Kidscape
แนะนำหนังสือนิทานภาพที่อยากชวนทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาอ่านกัน
หนังสือเรื่อง “คุณแม่มด…สวยปิ๊ง!“ คือหนังสือภาพสำหรับเด็กที่ผมอยากให้ทุกคนได้อ่าน มันคือการย่อส่วนสังคมปัจจุบันที่พูดถึงการพบรักในโลกออนไลน์ และการทำลายข้อจำกัดของ Beauty Standard รวมไปถึงการเปิดเผยอารมณ์และความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องพยายามเป็นคนที่ดีที่สุด แต่จงเป็นมนุษย์ปกติทั่วไปที่สามารถแสดงออกทางความรู้สึก และเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานค่านิยมที่สังคมได้ตีกรอบเอาไว้อย่างไม่ยุติธรรม
คุณแม่มด … สวยปิ๊ง!
เมื่อคุณแม่มดมีนัดเดตกับคุณยักษ์ แต่พวกสัตว์กลับบอกให้เธอเสกนู่นเสกนี่ให้ดูสวยขึ้น! หนังสือภาพตลกร้ายจากสเปนที่ชวนเด็กๆ ขบคิดเรื่องมาตรฐานความงามและคุณค่าในตัวเอง



